วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร? เกี่ยวกับ ไซนัสอักเสบ

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

ไซนัส คืออะไร ? 

ไซนัส ก็คือ โพรงอากาศเล็กๆ ที่อยู่ภายในกะโหลกศีรษะบริเวณรอบๆ จมูก โดยจะมีทางเชื่อมสำหรับเปิดโพรงจมูกอยู่หลายจุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา มีหน้าที่ให้ความอบอุ่นและความชื้นแก่อากาศที่เราสูดเข้าไปในทางเดินหายใจ อีกทั้งยังช่วยในการปรับเสียงพูด ช่วยในเรื่องของการรับรู้กลิ่น รวมถึงสร้างเมือกเพื่อให้ความชื้นและชะล้างโพรงจมูก 

ภายในเยื่อบุโพรงไซนัส (โพรงอากาศ) จะมีขนอ่อน หรือที่เรียกกันว่า Cilia ทำหน้าที่โบกพัดเพื่อระบายเอาเมือกที่เป็นเสมหะ หรือน้ำมูกออกมา ซึ่งในภาวะปกติจะมีการระบายของเมือกที่สร้างขึ้นในโพรงไซนัสลงมาที่รูเปิดในโพรงจมูกเพื่อให้ความชื้นและชะล้างโพรงจมูก แต่ถ้าหากรูนั้นถูกปิดกั้นจากอาการต่างๆ อาทิ อาการเป็นหวัด ที่เยื่อบุจมูกและไซนัสจะมีลักษณะที่อักเสบบม อาการติดเชื้อ หรือภูมิแพ้ ผนังกั้นจมูกคด หรือมีริดสีดวงจมูก ก็จะทำให้เมือกในโพรงไซนัสไม่สามารถระบายเมือกออกมาได้ ทำให้เกิดการสะสมหมักหมมจนกลายเป็นแหล่งอาหารสำหรับเชื้อโรคที่ใช้ในการเจริญเติบโตลุกลามจากโพรงจมูกเข้าไปในโพรงไซนัส ส่งผลให้เยื่อบุไซนัสอักเสบบวม ขนอ่อนในโพรงไซนัสสูญเสียหน้าที่ในการขับเมือก อีกทั้งการสะสมของเมือกก็จะมีมากขึ้นกลายเป็นหนองขังอยู่ในโพรงไซนัส เป็นเหตุให้เกิดอาการของโรคไซนัสอักเสบได้

 

ประเภทของอาการไซนัสอักเสบ 

อาการของไซนัสอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็นดังนี้ 

  • ชนิดเฉียบพลัน มีอาการน้อยกว่า 30 วัน

  • ชนิดกึ่งเฉียบพลัน มีอาการอยู่ระหว่าง 30 - 90 วัน

  • ชนิดเรื้อรัง มีอาการมากกว่า 90 วัน

 

อาการอักเสบอาจเกิดขึ้นกับไซนัสได้ทุกตำแหน่ง ได้แก่ 

  • ไซนัสข้างตา (Ethmoid sinus)

  • ไซนัสหน้าผาก (Frontal sinus)

  • ไซนัสโหนกแก้ม (Maxillary sinus) เป็นไซนัสประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด

  • ไซนัสที่อยู่ใต้ฐานกะโหลกศีรษะ (Sphenoidal sinus)

 

ไซนัสอักเสบ นับเป็นโรคติดต่อหรือไม่ ? 

ไซนัสอักเสบ นั้นไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นโรคเฉพาะที่เกิดขึ้นกับบุคคลซึ่งสามารถพบได้ทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศชื้น อีกทั้งยังสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ประมาณ 3 - 5% ของผู้ป่วยที่มาตรวจที่คลินิกหู คอ จมูก ส่วนใหญ่มักตรวจพบว่าอาการไซนัสอักเสบนั้นเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคหวัด ยิ่งในเด็กยิ่งพบมาก เพราะมีโอกาสเป็นหวัดได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่

นอกจากนี้ อาการไซนัสอักเสบที่พบในผู้ป่วยยังพบว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ , โรคเยื่อจมูกอักเสบ (Purulent rhinitis), ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps), ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated nasal septum), รากฟันเป็นหนอง เป็นต้น อีกทั้งผู้ป่วยอาจจะมีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาทิ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ , โรคหืด , โรคผิวหนัวอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) 

โดยทั่วไปกว่า 0.5% ของผู้ป่วยที่เป็นหวัดจะมีโอกาสเกิดไซนัสอักเสบตามมา ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) ก็จะมีอาการไซนัสอักเสบร่วมด้วยประมาณ 40 - 50%

สาเหตุของการเกิดไซนัสอักเสบ

  • ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute sinusitis) สาเหตุนี้มักจะเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนและโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากการการภูมิแพ้  ซึ่งเชื้อที่ทำให้ไซนัสอักเสบอาจเกิดจากเชื้อไวรัส อาทิ ไวรัสโรคหวัด , เชื้อแบคทีเรีย , และฮีโมฟีลัส อินฟลูเอ็นซาอี นอกจากนั้นส่วนน้อยก็ยังอาจเกิดจากเชื้อรา อาทิ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ที่หากพบในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน หรือผู้ป่วยที่เชื้อเอดส์มักทำให้การที่มีอยู่แล้วเกิดอันตรายร้านแรง ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่
    • โรคหวัดเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกบวม รูเปิดไซนัสอุดตัน ทำให้เกิดการอักเสบของไซนัสได้
    • โรคภูมิแพ้ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีอาการคันในจมูก , คัดจมูก , น้ำมูกไหล ทำให้ต้องคอยขยี้จมูกและสั่งน้ำมูกอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้เยื่อบุจมูกบวม รูเปิดไซนัสอุดตัน เสี่ยงต่อการเกิดไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น
    • การติดเชื้อของฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันกรามน้อยและฟันกรามด้านบน ซึ่งทั่วไปแล้วพบว่าประมาณ 10% ของการอักเสบของไซนัสที่โหนกแก้มจะมีสาเหตุมาจากฟันผุ เพราะผนังด้านล่างของไซนัสบริเวณนี้จะอยู่ติดกับรากฟัน ในบางรายอาจแสดงอาการชัดเจนภายหลังที่ถอนฟันมาแล้วเกิดรูทะลุระหว่างไซนัสโหนกแก้มและเหงือกขึ้น
    • โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ , โรคไอกรน , โรคหัด
    • เป็นผู้ที่ชอบใช้ยาพ่นจมูกโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะว่ายาพ่นจมูกบางตัวจะทำให้เกิดภาวะติดยาและเยื่อบุจมูกบวมเรื้อรังได้ อีกทั้งยังทำให้ความรู้สึกในการรับกลิ่นลดลงอีกด้วย
    • มีความผิดปกติของโพรงหลังจมูก เช่น เป็นริดสีดวง , เนื้องอกในจมูก , ผนังกั้นช่องจมูกคด หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าในจมูก
    • การสูบบุหรี่จัด หรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี อาทิ การอยู่ในชุมชนแออัด อาศัยอยู่ในย่านโรงงาน การได้รับมลพิษทางอากาศ หากได้รับสาร หรือกลิ่นเหล่านี้เข้าไปในจำนวนมากๆ เป็นประจำ จะมีผลทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลง จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น
    • การว่ายน้ำบ่อยๆ หรือการดำน้ำลึกๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสำลักน้ำเข้าไปในจมูกและไซนัสได้ อีกทั้งยังอาจมีเชื้อราเข้าไปสะสมจนเป็นเหตุให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ สารคลอรีน (Chlorine) ที่ถูกใช้ในสระว่ายน้ำก็ยังเป็นสารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุไซนัสได้ด้วยเช่นกัน
    • การถูกกระทบกระแทกที่บริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง เนื่องจากอาจทำให้โพรงไซนัสโพรงใดโพรงหนึ่งแตกหัก ช้ำบวม หรือมีเลือดออกภายในโพรง เป็นเหตุให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาภายหลัง
    • การเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศที่เกิดขึ้นรอบตัวแบบทันที อย่างในกรณีของการที่เครื่องบินขึ้น หรือลงจอดแบบทันที หรือจากการดำน้ำลึก หากว่ารูเปิดของไซนัสในขณะนั้นบวมอยู่ในขณะเป็นหวัด หรือโพรงจมูกในช่วงที่กำลังอักเสบจากอาการภูมิแพ้กำเริบ ก็จะส่งผลให้เยื่อบุบวมมากขึ้นได้ อีกทั้งอาจมีการหลั่งสารคัดหลั่ง หรือมีเลือดออก ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบ พบได้โดยมากที่ไซนัสหน้าผาก
  • ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (Chronic sinusitis) ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน (Anaerobic bacteria) , สแตฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus) , ฮีโมฟิลัส อินฟลูเอ็นซาอี (Haemophilus influenzae) , เคลบเซลลา นิวโมเนียอี (Klebsiella pneumoniae) , กลุ่มแบคทีเรียแกรมลบ (Gram-negative bacteria) ในบางครั้งก็อาจมีการติดเชื้อหลายชนิดร่วมกัน นอกจากนั้นส่วนน้อยก็อาจเกิดจากเชื้อรา อาทิ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ที่มักทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง อันเป็นเหตุมาจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อเชื้อรา (Allergic fungal sinusitis) พบได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรงเป็นปกติ โดยโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังนี้มักพบว่าเป็นภาวะแทรกซ้อมจากไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ได้ถูกรักษาอย่างถูกต้อง รวมถึงยังพบปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก ได้แก่
    • การไม่รับการรักษาที่ถูกต้องเพียงพอในขณะที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลันอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจเกิดจากผู้ป่วยเองที่ขาดการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง
    • การติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนซ้ำซาก
    • การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น การอยู่ในชุมชนแออัด , การอยู่ในย่านโรงงาน , การได้รับมลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ รวมถึงการสูบบุหรี่จัด
    • การมีโรค หรือภาวะที่ทำให้มีการอุดตันของรูเปิดของไซนัส
    • การมีโรค หรือภาวะที่ทำให้ขนอ่อน (Cilia) ที่คอยโบกพัดเพื่อระบายสิ่งคัดหลั่งออกข้างนอกเสียไป ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งคัดหลั่งในไซนัส ก่อนให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ อย่างในกรณีที่เป็นภาวะหลังเป็นโรคหวัด
    • เกิดโรคกรดไหลย้อนขึ้นที่คอและกล่องเสียง (Laryngopharyngeal reflux – LPR)
    • เป็นโรคทางทันตกรรมเรื้อรัง
    • มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือลดลง เช่น ผู้ป่วยเอดส์ , เบาหวาน , ปลูกถ่ายอวัยวะ , ผู้มีภาวะโลหิตจาง , ขาดสารอาหาร , มีอารมณ์แปรปรวน , มีความเครียดสูง
    • มีปัจจัยเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ที่ส่งผลให้เกิดการบวมของเยื่อบุจมูก เยื่อบุไซนัส และรูเปิดไซนัสบวม ทำให้มีสิ่งคัดหลั่งสะสมอยู่ในไซนัส ก่อให้เกิดการติดเชื้อ
 

ใครบ้างที่โอกาสเสี่ยงป่วยเป็น ‘ไซนัสอักเสบ’ ได้

ในความเป็นจริงแล้วใครๆ ก็สามารถที่จะเป็น ‘ไซนัสอักเสบ’ ได้ แม้แต่เด็กแรกเกิดที่มีโพรงอากาศ หรือไซนัสขนาดเล็กก็ตาม แต่ก็มีคนอยู่หลายกลุ่มที่เสี่ยงเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปอยู่ ดังนี้ …

  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก : เมื่อเกิดอาการแพ้ก็จะมีลักษณอาการคล้ายกับคนเป็นหวัด เยื่อบุจมูกจะมีอาการบวม รูเปิดไซนัสจะตีบตัน ทำให้เกิดการอักเสบภายในไซนัสได้
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของช่องจมูก : ยกตัวอย่าง ผู้ที่มีผนังกั้นระหว่างช่องจมูกคด ทำให้ช่องจมูกนั้นมีความกว้างเล็กกว่าปกติจนทำให้เกิดอาการแน่นและคัดจมูก อีกทั้งยังเป็นการขัดขวางการไหลเวียนของน้ำมูกตามปกติที่จะไหลไปมางด้านหลัง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ที่สุบบุหรี่และผู้ที่อยู่ในเขตที่มีมลภาวะเป็นพิษ : การทำพฤติกรรมดังกล่าว หรือการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลงได้ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น

สระว่ายน้ำที่มีการใส่สารคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค : การว่ายน้ำในสระน้ำที่มีคลอรีน หรือถูกทำการฆ่าเชื้อด้วยโอโซนก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นไซนัสอักเสบขึ้นได้ เพราะเราอยู่ในสภาวะเช่นนั้นเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุได้
ลักษณะอาการเมื่อเป็นไซนัสอักเสบ 

ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 

ในผู้ใหญ่มักมีอาการปวดที่บริเวณใบหน้าเมื่อเกิดการอักเสบ เช่น ปวดที่บริเวณหัวตา , หน้าผาก โหนกแก้ม , รอบๆ กระบอกตา , หลังกระบอกตา ในบางรายอาจรู้สึกคล้ายกับปวดฟันตรงซี่บน ซึ่งอาจปวดเพียงข้างเดียว หรือปวดทั้งสองข้าง โดยอาการปวดจะเป็นแบบตื้อๆ หรือหน่วงๆ ในบางครั้งจะมีอาการมึนศีรษะร่วมกับการปวด อีกทั้งอาการปวดมักจะเกิดขึ้นในตอนเช้า หรือบ่ายเวลาที่ก้มศีรษะ หรือเปลี่ยนท่า 

ผู้ป่วยที่มีเป็นไซนัสเฉียบพลันจะมีอาการคัดแน่นจมูกอยู่ตลอดเวลา พูดเสียงขึ้นจมูก มีน้ำมูกเป็นหนองออกข้นเหลือง หรือเขียว หรืออาจมีเสมหะข้นเหลือง หรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกลงในคอ ทำให้ต้องคอยสูด หรือขากออก ในบางรายอาจมีไข้สูงจนหนาวสั่น ซึ่งในขณะที่มีไข้นั้นก็จะมีอาการปวดศีรษะและปวดบริเวณใบหน้าร่วมด้วย รวมถึงยังมีอาการอ่อนเพลีย ไอเรื้อรังเป็นเวลานาน เจ็บคอ ระคายคอ เสียแหบ ปวดหู หูอื้อ หายใจมีกลิ่นเหม็น อีกทั้งความรู้สึกในการรับรู้กลิ่น หรือลดชาติก็ลดลงไปด้วย

 

ผู้ป่วยไซนัสเรื้องรังที่เป็นเด็ก

ในป่วยเด็กที่มีอาการไซนัสเรื้อรังนั้นมักมีอาการที่ไม่ชัดเจนเท่าผู้ใหญ่ แต่เมื่อเป็นหวัดก็มักมีระยะเวลานานกว่าปกติกว่าจะหาย ยกตัวอย่าง เมื่อเป็นหวัดทำให้มีน้ำมูก แต่น้ำนั้นอาจใส หรือข้นเป็นหนอง มีอาการไอติดต่อกันนานกว่า 10 วัน ซึ่งมักจะไอในช่วงกลางวันและกลางคืน รวมถึงมีไขต่ำและหายใจมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ในเด็กบางราย อาจแสดงอาการเป็นหวัดที่รุนแรงกว่าปกติ เช่น มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส มีน้ำมูกข้นเป็นหนอง มีอาการปวดที่บริเวณใบหน้า หลังตื่นนอนก็จะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีอาการบวมรอบๆ ดวงตา นอกจากนี้ ในเด็กที่มีอาการของหูอักเสบเรื้อรังและหอบหืด ก็ควรนึกถึงว่าอาจมีความเสียงที่จะเป็นไซนัสอักเสบเผื่อไว้ด้วย อีกทั้งในเด็กบางรายที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลันจะมีอาการกำเริบมากกว่าปีละ 6 ครั้ง แต่ละครั้งจะนานกว่า 10 วัน 

 

ไซนัสอักเสบเรื้อรัง 

ผู้ป่วยที่มีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรังมักมีอาการต่อเนื่องทุกวันนานเกิน 90 วัน ผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ มักจะมีอาการคัดแน่นจมูก มีเสมหะข้นเหลือง หรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกลงในคอ เมื่อหายใจก็จะมีกลิ่นเหม็น มีความรู้สึกในการรับรู้กลิ่น หรือรสชาติลดลง แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีไข้แบบที่พบในไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 

ผู้ป่วยไซนัสอักเสบเรื้อรังที่เป็นเด็กมักมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เมื่อหายใจจะมีกลิ่นเหม็น มีโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน หรือหูชั้นกลางอักเสบซ้ำซาก

 

วิธีป้องกันไซนัสอักเสบ 

เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอาการไซนัสอักเสบ หรือลดอาการรุนแรงที่เกิดขึ้น ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ 

    1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ขั้นแรกให้ออกกำลังกายเป็นประจำแบบไม่ต้องหักโหม เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค ต่อมาให้พักให้เพียงพอ อย่าอดนอน หรือนอนดึกบ่อยๆ เพราะหากร่างกายอ่อนแอก็จะมีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย และสุดท้าย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทุกวัน โดยให้ลด หรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ด้วย

    2. ให้หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ อย่าง มลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ และกลิ่นที่ผิดปกติ โดยแนะนำให้อยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีฝุ่นละออง ไม่มีเกสรดอกไม้ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

    3. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือกระโดดน้ำ เมื่อมีอาการคล้ายกับหวัดกำเริบ

    4. หลีกเลี่ยงภาวะที่อุณหภูมิมีการแปรเปลี่ยนฉับพลัน อาทิ การเข้าๆ ออกๆ ห้องปรับอากาศ หรือการอยู่ในรถยนต์ที่ตากแดดร้อนๆ เป็นเวลานานๆ เป็นต้น

    5. ไม่ควรใช้ยาพ่นจมูกโดยที่ไม่ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์

    6. ควรเดินทางไปรับการตรวจโพรงจมูก จาก แพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก ปีละครั้ง

    7. พยายามดูแลตัวเองไม่ให้เป็นหวัด เพราะหากเราเป็นหวัดก็สามารถทำให้เป็นไซนัสอักเสบได้

    8. การป้องกันไซนัสไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก สามารถทำได้โดยพยายามแก้ไขและป้องกันไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาซ้ำได้อีก เช่น การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และหากมีการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ว่าจะเป็น โรคหวัด โรคคออักเสบ หรือฟันผุ จะต้องรีบรักษาให้หายโดยเร็ว แต่ถ้าหากเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก ผนังกั้นช่องจมูกคด เหล่านี้ก็ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
    9. สำหรับผู้ที่เป็นหวัด มีน้ำมูก หรือมีเสมหะในคอในลักษณะข้นเหลือง หรือเขียว เป็นหวัดต่อเนื่องติดต่อกันนานกว่าปกติ (นานเกิน 10 วัน) หรือเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง แนะนำว่าควรจะไปปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะเป็นผลที่เกิดจากไซนัสอักเสบ

 

 

 

ใครจะคิดว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ หรือใบหน้านั้นจะมีผลมาจากการที่เราไม่สบาย หรือเกิดความเครียดเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นอาการที่บอกถึงความไม่แข็งแรงและการมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำกว่าปกติ ฉะนั้น เราจึงควรหันมาเริ่มต้นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีในทุกๆ ด้าน เราจะได้เอาเวลาที่มีอยู่ไปทำสิ่งต่างๆ ที่มีประโยชน์ หรือสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเข้าโรงพยาบาล หรือรักษาอาการไซนัสให้เปลืองเวลา เพราะชีวิตเรายังต้องอยู่เพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่นๆ ไปอีกนาน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/7309/https://www.sanook.com/health/7309/

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีเมษ กับ ราศีมิถุน โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีเมษ (ระหว่างวันที่ 22 มี.ค. ถึง 21 เม.ย.)

เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนพูดตรงมาตรงไป กระทำอะไรมักมีเป้าหมายเป็นคนที่พึงพอใจเดินทางท่องเที่ยว เป็นคนขยันชอบการปฏิบัติ เป็นคนที่มีความสร้างสรรค์ขยันอดทน รักความอิสระมั่นใจตนเองชอบความเด่นดัง อาชีพที่เหมาะกับชาวราศีเมษเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยการปฎิบัติเพราะเป็นคนขยันเหมาะในอาชีพที่จะต้องเดินทางบ่อยๆเช่นมัคคุเทศก์ อาชีพเซลล์ นักถ่ายทำสารคดี นักบิน ทางด้านความรักมีความโรแมนติกชอบความเป็นส่วนตัวอยู่บ้างแต่ถ้าหากพบคู่ของเจ้าชะตาจบ ก็ต้องประสงค์ให้เพื่อนญาติหรือสังคมได้รับรู้ว่าเจ้าชะตาคว้าพบคู่พบกับคนที่ถูกใจแล้ว

 

ชาวราศีมิถุน (ระหว่างวันที่ 22 พ.ค. ถึง 21 มิ.ย.)

ชาวราศีมิถุนเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเรื่องรู้สิ่งต่างๆได้รับอย่างรวดเร็วแก้ปัญหาเจาะจงหน้าได้ดีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือกับผู้อื่นได้ดี ชอบวางแผนการใช้ชีวะได้ดี ชอบสื่อสารสนทนากับเพื่อนหรือชอบเข้าสังคม แต่บางครั้งปฏิพัทธ์เปลี่ยนเป้าหมายโต้คารมเก่งพอสมควรแต่บางครั้งการตัดสินใจไม่เด็ดขาดสองจิตสองใจ เรื่องข้าวของการดูแลคนในครอบครัวก็ทำได้ดีพอพอสมควรอาชีพที่เหมาะสมกับคนที่เกิดราศีนี้คืออาชีพนายหน้า นักค้นคว้า นักประดิษฐ์ ไม่ค่อยโปรดปรานทำงานซ้ำๆเพราะดำรงฐานะคนเบื่อง่าย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีเมษกับชาวราศีมิถุน

การพิจารณาความสมพงศ์ของดวงชะตาระหว่างคู่รักชาวราศีเมษและชาวราศีเมถุนอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติในการคบหาและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมขัดขวางเพราะทั้งสองราศีนี้มีความพิเศษในเรื่องความสามารถในและเรื่องการสร้างความสุขและความมั่นคงทางด้านครอบครัวได้ดี จึงเหมาะที่จักตกลงปลงใจที่จะมาสดคู่รักกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรพากันเดินทางไปท่องเที่ยวร่วมกันอย่างมีความสุข คือ พระธาตุดอยสุเทพเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สวนสัตว์ สวนสนุก สวนน้ำ ชมภาพยนตร์ อัญมณีนำโชคที่จะช่วยให้ความรักและความสัมพันธ์ส่งผลให้มีความสุขที่ดีต่อกันคือ กำไลข้อมือทองคำที่ประดับมรกต บ้านหรือเรือนหอที่ควรเลือกซื้อไว้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันควรเป็นบ้านแบบสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : sanookhoro ดูดวงสมพงษ์

แห่ส่องเลขคึกคัก รอยเลื้อยปริศนากลางถนน เชื่อสุดใจ

ฮือฮา..พญานาคเลื้อย ทิ้งรอยกลางถนนลาดยาง..ยาวกว่า 100 เมตร แสดงปาฏิหาริย์หน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก คนแห่ขอเลขเด็ดแทงหวยคึกคัก

(14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายทวี บุญเสก กำนันตำบลตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ว่าชาวบ้านต่างแตกตื่น หลังพบว่ามีรอยคล้ายรอยพญานาค เลื้อยขดไปมากลางถนนลาดยาง ที่บริเวณหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ โดยรอยมีระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และเริ่มซีดจางลงแล้ว แต่มีชาวบ้านสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

โดยรอยมีรูปร่างสมบูรณ์ คือ มีส่วนหัว ลำตัว และหางอีกด้วย ประกอบกับที่พบรอยพญานาคดังกล่าว ปรากฏอยู่ตรงบริเวณหน้า ศาลปู่ตาบ้านฉลีก ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพญานาคปรากฏให้เห็นซึ่งรอยนั้นมีลักษณะเปียกชื้น เลื้อยขดไปมาบนถนนลาดยาง ชาวบ้านและผู้สื่อข่าว จึงลองขูดรอยพญานาค มาดมพิสูจน์ดูปรากฏว่า มีกลิ่น คาวๆ หอมๆ คล้ายสมุนไพรโบราณ

ห่างจากศาลปู่ตาบ้านฉลีก ออกไปประมาณ 100 เมตร บริเวณสะพานคลองส่งน้ำบ้านฉลีก ที่บริเวณทุ่งนาข้าวของชาวบ้าน พบร่องรอยการแหวกกอข้าว ลักษณะเหมือนงูขนาดใหญ่เลื้อยผ่านเป็นทางยาว และขดเคี้ยว ชาวบ้านต่างพากันยกมือไหว้ และพากันโทรศัพท์มือถ่ายรูปไว้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ถึงกับนั่งคุกเข่า กราบขอพร พญานาคช่วยประทานโชค ลาภ หวังให้ช่วยปลดหนี้สิน

หลังทราบข่าว กลุ่มชาวบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ และชาวบ้านหมู่บ้านข้างเคียง และนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศ ต่างทยอยเดินทาง นำดอกไม้ ธูปเทียน และแป้งมาทาบนพื้นที่ถนนลาดยางที่ปรากฏรอยพญานาค เพื่อขอ บริเวณด้านหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีกเป็นจำนวนมาก

นางสาวศศิธร อายุ 20 ปี ผู้เห็นรอยพญานาคเป็นคนแรก กล่าวว่า ที่แรกมีน้าคนหนึ่งเป็นคนเห็น โทรตามให้ตนมาดูกับแม่ เวลาประมาณ 20.00 น.ที่เขาโทรตาม พอมาเห็นก็เป็นจริง ก็เลยโทรศัพท์โทรตามพ่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านฉลีกมาดู และได้เรียกชาวบ้านมาดู รอยยังเปียกชื้นอยู่ ก็เลยลองดมดูว่ามันเป็นกลิ่นอะไร พอดมดูเป็นกลิ่นคาวๆ คลายๆ โคลน

กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกันนั้น มีทหารผ่านทางมากว่า 10 นาย และมีทหารยศจ่าคนหนึ่งเดินมาถามตนว่า ปกติท่านขึ้นมาทุกปีไหม ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ขึ้นทุกปีแต่ลักษณะแบบนี้ ไม่เคยมี ปกติจะขึ้นมาบนผิวน้ำ และขึ้นมาตามวัด เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาบนถนน และมีความยาว มีทั้งหัวและหาง หัวจะอยู่ทางทิศตะวันตก

นางจวน อายุ 63 ปี ชาวบ้านฉลีก กล่าวว่า กลิ่นคาว เหมือนเนื้อเยื่อของสัตว์อะไรสักอย่าง เหม็นคาว รอยที่เห็นเหมือนรอยพญานาคเลย ถ้างูจะไม่มีหนวด คางยาวแบบนี้ ตรงบริเวณหัว มีหน่อ เป็นเส้นยาว 2 หน่อ ชาวบ้านที่นี้เชื่อว่าเป็น รอยพญานาค บางคนที่เขาไม่เชื่อก็ว่า รอยอะไรไม่รู้บ้าไปเอง ชาวบ้านเคยเห็นเมื่อปีที่แล้ว รอยเหมือนพญานาคเลย ตนเคยเห็นมาแล้วกับตาที่ฝาย เมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่ นายสมพงษ์ เลื่อมใส ผู้ใหญ่บ้านฉลีก กล่าวว่า เมื่อปีก่อนชาวบ้านเห็นเขาปรากฏกายขึ้น ลักษณะเป็นงูเลื้อยขดเคี้ยวอยู่เหนือน้ำ ความยาว 200 กว่าเมตร ตอนแรกก็ไม่เชื่อก็เลยอยากจะพิสูจน์ว่า มันคืออะไร สุดท้ายเขาก็อยู่นิ่ง สีสะท้อนในน้ำออกสีทอง อยู่ภายในฝายบ้านฉลีก ห่างจากจุดนี้ไปก็ประมาณ 50 เมตร

สิ่งที่เห็นเป็นบางสิ่งที่ขดคี้ยวอยู่กลางลำน้ำที่เขาขุดคลองหน้าฝาย มองเห็นเป็นรูปเลื้อยสีเหลืองอร่าม ไม่เคยเห็นมาก่อน พึ่งมาเห็นช่วง 3-4 ปีมานี้นี่เอง แต่ก่อนจะมีปรากฏการณ์ แสงพุ่งจากน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นประเพณี ชาวบ้านที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่โผล่มาบนถนนลาดยางนับว่าเป็นครั้งแรกมีรูปขดเคี้ยวเหมือนงู

ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ชาวบ้านบางคนได้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปบอกต่อ และมีการทำพิธีขอหวยพญานาค ซึ่งตีเป็นเลข เด็ด 25 และ 45 ชาวบ้านต่าง แห่พากันไปซื้อหวยกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันใกล้หวยออกพอดี

ผลสลาก http://news.sanook.com/lotto/

สลากกินแบ่งรัฐบาล 16 กันยายน 2559 http://news.sanook.com/lotto/check/16092559/

สัมผัสแรกของ Nokia 8 มือถืออีกรุ่นที่สามารถทำให้เงินในกระเป๋าสั่นไปหมด

ก่อนหน้านี้คงทราบกันดีกว่า  โทรศัพท์มือถือเรือธงที่มีการนำผู้สนับสนุนเก่าและก็เทคโนโลยี เน้นการถ่ายรูปที่ไม่เคยเกิดมาก่อนได้เปิดตัวบนโลกช่วงวันที่ 16 ส.ค. แต่ว่าช่วงวันที่ 28 สิงหาคม โนเกียก็เปิดตัว Nokia 8 อย่างเป็นทางการ แล้วมันจะดีเลิศแค่ไหน วันนี้ก็เลยจะมาพรีวิวกันสดๆที่ตรงนี้มุมที่คุณใคร่รู้ก่อนเจอกับรีวิวเต็มเร็วๆนี้

และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะเกาะติดกับทีมงาน HMD เพื่อการนำเครื่องมาพรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ มาดูกันครับว่าเบื้องต้น Nokia 8 จะมีอะไรดีบ้าง

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
  • GSM850/900/1800/1900
  • WCDMA1, 2, 5, 8
  • TDS-CDMA34, 39
  • LTE1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
  • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL 50Mbps UL
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
  • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (2.45GHz Qualcmm® Kryo ™  1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5."IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
  • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0แฟลชคู่
  • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
  • เครื่องวัดความใกล้เคียงเครื่องวัดความเร็วในการวัดเข็มทิศ E, เข็มหมุนFingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
  • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.(18 วัตต์, 5V 2.5A, 9V 2A, 12V 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
  • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
  • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด:
  • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
  • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รูปร่างของ Nokia 8

 

เป็นมือถือที่มองด้านหน้าแล้ว มีความคล้ายกับ Nokia 5 และ Nokia 6 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ เพียงแต่ขนาดหน้าจอของมัน แทรกกลางระหว่าง 2 รุ่นคือ 5.3 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560x1440) โดยเหตุผลที่เลือกใช้หน้าจอขนาดนี้เพราะ เขาบอกว่าคนใช้งานจะจับถนัดและกดทุกอย่างได้ลงตัวที่สุด เมื่อลองใช้งานแล้วพบว่า มีความจริงอยู่ 85% เลยทีเดียว

ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์จาก Zeiss ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ Nokia

ด้านล่างมีปุ่ม Back, Home พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ และมีปุ่ม Recent Apps สามารถสลับ Apps ที่เปิดก่อนหน้าได้เช่นกัน แต่ว่า หน้าจอเล็กไปทำให้เมื่อต้องกดกด Multi Tasking อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่

ด้านข้าง (รวมถึงด้านหลัง) เลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรด 7,000 ที่เรียกได้ว่าหนาแน่นและออกแบบดี เทคโนโลยีการพ่นสีนั้นมีการชุบเคลือบสานทั้งแบบผิวด้าน และมันวาว ให้เลือก ฝั่งซ้ายมีช่องซิม ฝั่งขวามีปุ่มกดม ปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C พร้อมกับลำโพง และมีไมโครโฟนให้

ด้านหลัง ออกแบบได้เหมือนกับ Nokia 5 ไม่มีผิด แต่ผิวสัมผัสแตกต่างชัดเจน พร้อมกับมีกล้องหลังคู่ เลนส์ Zeiss พร้อมกับ LED Flash และมี Laser Focus ให้เลือกด้วยเช่นกัน ภาพรวมเป็นเครื่องที่น้ำหนักเบา จับต้องได้ง่ายและมีความสวยงามและแข็งแรงในตัว

 

ประสิทธิภาพของ Nokia 8

 

เบื้องต้นทีจากที่ได้กดทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 8 ที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdrahgon 835, RAM 4GB ความจำในตัว 64GB ทำได้ออกมาที่ 177,295 คะแนน ถือว่าทำได้ดีเกาะกลุ่มบน เพียงแต่น่าเสียดายถ้าได้รุ่น RAM 6GB ก็คงจะดีกว่านี้

ส่วนเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ถือว่าทำได้ดี เพราะเป็น Pure Android ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งแต่อย่างใด น่าเสียดายที่เปิดตัวเร็วกว่า Android Oreo ออกมาเท่านั้นเอง แต่ความร้อนถึงแม่เขาจะบอกว่ามีเทคโนโลยีระบาความร้อนจาก Heat Pipe แล้ว แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเท่าไหร่

ลูกเล่นเด่น ๆ ที่ได้ลอง

เนื่องจากได้ลองกันประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถเล่นฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นที่กล้องที่สามารถกดเล่นได้ดังนี้

  • Dual Sight Mode เป็นโหมดที่สามารถปรับให้กล้องหน้าและหลังให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และสามารถถ่ายวีดีโอ หรือจะ Live หรือจะถ่ายภาพนิ่งก็ได้เช่นกัน แต่ว่า ระยะต้องเหมาะสมและจัดองค์ประกอบให้ดี ถึงจะออกมาสวย และดู ๆ ไปแล้วก็เหมาะกับการสัมภาษณ์คนลงข่าวได้ไม่น้อย
  • กล้องหลังของ Nokia 8 มีความสามารถเยอะ ทั้งสามารถปรับเรื่องความสดของสี, หรือขาวดำ หรือให้กล้องสีทำงานอย่างเดียว พร้อมกับมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว เรียกได้ว่าลงตัว
  • กล้องหน้าคมชัดมากเพราะมีขนาด 13 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ปรับได้ 20 ระดับ ถือว่ามากพอสมควร
  • Nokia OZO เป็นระบบอัดเสียงคุณภาพสูงเพราะสามารถใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวอัดเสียงได้ และมีการปรับให้เสียงเข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งก็ได้เช่นกัน

  • UI ของกล้อง หลายคนเข้าใจว่า เป็นของ Nokia PureView แต่ข่าวร้ายคือ HMD เผยว่า PureView ยังเป็นของ Microsoft อยู่ ทำให้ UI ใหม่ ครบเครื่อง แต่ยังใช้งานยากและดูงง ๆ อยู่ ต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อย
  • ลูกเล่น Pure Android มันเป็นจุดเด่นที่ทำให้เครื่องลื่นไหลดี

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 8)

จากที่ได้ลองสั้น ๆ ถือว่าเป็นความลงตัวทั้งดีไซน์ของเครื่องที่สวยเบาและแข็งแรง ที่ได้การยืนยันจากทีมโนเกียเอง และความสามารถของมันที่มองแล้ว เหมาะกับคนที่อยากเป็น Content Creator หรือ ผู้สร้างเนื้องหาบนโลกออนไลน์จากฟีเจอร์ กล้องถ่ายภาพพร้อมกัน 2 ตัว ซึ่งตรงกับที่ได้สรุป 4 ข้อโดดเด่นของ Nokia 8 ไปก่อนหน้านี้

ส่วนราคานั้นถือว่าออกมาดีมาก อยู่ที่ 19,500 บาท เท่านั้นเองเรียกได้ว่าอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ในเวลานี้อย่างมากเลยล่ะ

สุดท้ายนี่เป็นแค่ลองสั้น ๆ เพียง 30 นาที แต่ถ้ามาอยู่ร่วมกันนาน ๆ กว่านี้จะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไปกับรีวิวที่ Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432889/

สัมผัสแรกของ Nokia 8 มือถืออีกรุ่นที่สามารถทำให้เงินในกระเป๋าสั่นไปหมด

ก่อนหน้านี้คงทราบกันดีกว่า  โทรศัพท์เคลื่อนที่เรือธงที่มีการนำผู้สนับสนุนเก่าและก็เทคโนโลยี ย้ำการถ่ายรูปที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้เปิดตัวบนโลกช่วงวันที่ 16 เดือนสิงหาคม แต่ว่าเมื่อวันที่ 28 ส.ค. โนเกียก็เปิดตัว Nokia 8 อย่างเป็นทางการ แล้วมันจะดีเลิศแค่ไหน วันนี้ก็เลยจะมาพรีวิวกันใหม่ๆที่ตรงนี้มุมที่คุณต้องการทราบก่อนพบกับรีวิวเต็มเร็วๆนี้

และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะเกาะติดกับทีมงาน HMD เพื่อการนำเครื่องมาพรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ มาดูกันครับว่าเบื้องต้น Nokia 8 จะมีอะไรดีบ้าง

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
  • GSM850/900/1800/1900
  • WCDMA1, 2, 5, 8
  • TDS-CDMA34, 39
  • LTE1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
  • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL 50Mbps UL
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
  • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (2.45GHz Qualcmm® Kryo ™  1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5."IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
  • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0แฟลชคู่
  • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
  • เครื่องวัดความใกล้เคียงเครื่องวัดความเร็วในการวัดเข็มทิศ E, เข็มหมุนFingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
  • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.(18 วัตต์, 5V 2.5A, 9V 2A, 12V 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
  • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
  • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด:
  • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
  • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รูปร่างของ Nokia 8

 

เป็นมือถือที่มองด้านหน้าแล้ว มีความคล้ายกับ Nokia 5 และ Nokia 6 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ เพียงแต่ขนาดหน้าจอของมัน แทรกกลางระหว่าง 2 รุ่นคือ 5.3 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560x1440) โดยเหตุผลที่เลือกใช้หน้าจอขนาดนี้เพราะ เขาบอกว่าคนใช้งานจะจับถนัดและกดทุกอย่างได้ลงตัวที่สุด เมื่อลองใช้งานแล้วพบว่า มีความจริงอยู่ 85% เลยทีเดียว

ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์จาก Zeiss ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ Nokia

ด้านล่างมีปุ่ม Back, Home พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ และมีปุ่ม Recent Apps สามารถสลับ Apps ที่เปิดก่อนหน้าได้เช่นกัน แต่ว่า หน้าจอเล็กไปทำให้เมื่อต้องกดกด Multi Tasking อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่

ด้านข้าง (รวมถึงด้านหลัง) เลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรด 7,000 ที่เรียกได้ว่าหนาแน่นและออกแบบดี เทคโนโลยีการพ่นสีนั้นมีการชุบเคลือบสานทั้งแบบผิวด้าน และมันวาว ให้เลือก ฝั่งซ้ายมีช่องซิม ฝั่งขวามีปุ่มกดม ปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C พร้อมกับลำโพง และมีไมโครโฟนให้

ด้านหลัง ออกแบบได้เหมือนกับ Nokia 5 ไม่มีผิด แต่ผิวสัมผัสแตกต่างชัดเจน พร้อมกับมีกล้องหลังคู่ เลนส์ Zeiss พร้อมกับ LED Flash และมี Laser Focus ให้เลือกด้วยเช่นกัน ภาพรวมเป็นเครื่องที่น้ำหนักเบา จับต้องได้ง่ายและมีความสวยงามและแข็งแรงในตัว

 

ประสิทธิภาพของ Nokia 8

 

เบื้องต้นทีจากที่ได้กดทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 8 ที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdrahgon 835, RAM 4GB ความจำในตัว 64GB ทำได้ออกมาที่ 177,295 คะแนน ถือว่าทำได้ดีเกาะกลุ่มบน เพียงแต่น่าเสียดายถ้าได้รุ่น RAM 6GB ก็คงจะดีกว่านี้

ส่วนเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ถือว่าทำได้ดี เพราะเป็น Pure Android ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งแต่อย่างใด น่าเสียดายที่เปิดตัวเร็วกว่า Android Oreo ออกมาเท่านั้นเอง แต่ความร้อนถึงแม่เขาจะบอกว่ามีเทคโนโลยีระบาความร้อนจาก Heat Pipe แล้ว แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเท่าไหร่

ลูกเล่นเด่น ๆ ที่ได้ลอง

เนื่องจากได้ลองกันประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถเล่นฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นที่กล้องที่สามารถกดเล่นได้ดังนี้

  • Dual Sight Mode เป็นโหมดที่สามารถปรับให้กล้องหน้าและหลังให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และสามารถถ่ายวีดีโอ หรือจะ Live หรือจะถ่ายภาพนิ่งก็ได้เช่นกัน แต่ว่า ระยะต้องเหมาะสมและจัดองค์ประกอบให้ดี ถึงจะออกมาสวย และดู ๆ ไปแล้วก็เหมาะกับการสัมภาษณ์คนลงข่าวได้ไม่น้อย
  • กล้องหลังของ Nokia 8 มีความสามารถเยอะ ทั้งสามารถปรับเรื่องความสดของสี, หรือขาวดำ หรือให้กล้องสีทำงานอย่างเดียว พร้อมกับมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว เรียกได้ว่าลงตัว
  • กล้องหน้าคมชัดมากเพราะมีขนาด 13 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ปรับได้ 20 ระดับ ถือว่ามากพอสมควร
  • Nokia OZO เป็นระบบอัดเสียงคุณภาพสูงเพราะสามารถใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวอัดเสียงได้ และมีการปรับให้เสียงเข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งก็ได้เช่นกัน

  • UI ของกล้อง หลายคนเข้าใจว่า เป็นของ Nokia PureView แต่ข่าวร้ายคือ HMD เผยว่า PureView ยังเป็นของ Microsoft อยู่ ทำให้ UI ใหม่ ครบเครื่อง แต่ยังใช้งานยากและดูงง ๆ อยู่ ต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อย
  • ลูกเล่น Pure Android มันเป็นจุดเด่นที่ทำให้เครื่องลื่นไหลดี

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 8)

จากที่ได้ลองสั้น ๆ ถือว่าเป็นความลงตัวทั้งดีไซน์ของเครื่องที่สวยเบาและแข็งแรง ที่ได้การยืนยันจากทีมโนเกียเอง และความสามารถของมันที่มองแล้ว เหมาะกับคนที่อยากเป็น Content Creator หรือ ผู้สร้างเนื้องหาบนโลกออนไลน์จากฟีเจอร์ กล้องถ่ายภาพพร้อมกัน 2 ตัว ซึ่งตรงกับที่ได้สรุป 4 ข้อโดดเด่นของ Nokia 8 ไปก่อนหน้านี้

ส่วนราคานั้นถือว่าออกมาดีมาก อยู่ที่ 19,500 บาท เท่านั้นเองเรียกได้ว่าอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ในเวลานี้อย่างมากเลยล่ะ

สุดท้ายนี่เป็นแค่ลองสั้น ๆ เพียง 30 นาที แต่ถ้ามาอยู่ร่วมกันนาน ๆ กว่านี้จะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไปกับรีวิวที่ Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432889/

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

เคล็ดลับหน้าขาวใสไร้รอยสิว จากผู้หญิงหน้าสิว มีรอยดำ เธอได้ลองพอกหน้าด้วยสูตรนี้ เธอคนนี้ใช้นามแฝงว่า คุณ หญิงเชื่อในพระเจ้า สมาชิกจาก http://pantip.com/ สูตรหน้าใสที่เห็นผลจริงเวลาใน 2 เดือนของใช้เธอจะมีส่วนผสมอะไรค่อย ตามมาดูกันได้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะ เราอยากเเชร์ความสวยผ่านพันทิปคะ เรามีเคล็ดลับที่ไม่ลับดีดีมาให้ทุกคนอ่านค่ะ

อยากให้อ่านข้อความก่อนนะคะ ยาวนิดหน่อยเเต่สาระเยอะค่ะ

เราหมายถึงคนผิวคล้ำมากค่ะ เราชอบทำอะไรเสด็จเรื่อยกับหน้าตัวเอง เอาอะไรมาพอกหน้า จนเต็มไปหมด คือเราอยากให้หน้าขาวค่ะ นั่นมันคือความฝันของผู้หญิงที่อยากหน้าขาวเนียน

ไอ้จุดพีคมันตรงที่ มันเป๊ะมากค่ะ กระผมพอกหน้าสูตรนี้มา เกือบ 2 เดือนละค่ะ ออกจากที่หน้าสิวจนกระทั่งเพื่อนล้อก็หายไป พอละค่ะไม่เกริ่นไสว มาริดูรูปเราตอนมีสิว และหลังจากที่ฉันคิดสูตรนี้ขึ้นมาสู่

นี่ค่ะ รูปตอนเป็นสิว เป็นริ้วรอยมาก ไปไรนี่อายค่ะ ในรูปอาจไม่เห็นสิวมาก แต่ความจริงมันมากชุกค่ะ เยอะมาก

 

เคล็ดลับหน้าขาวใส

 

และนี่หลังจากใช้ไป

มิได้เเต่งหน้า เเละกล้องฟรุ้งฟริ้งอะไรทั้งนั้น เราเปิดเเฟลต รอยอะไรจักเห็นชัดพอแรงเพราะสดกล้องธรรมดา อิอิ ภูมิใจค่ะคลาไคลไหนไม่ต้องอายอีกต่อไป

เริ่มสูตรเลยดีกว่าค่ะ

* สิ่งที่ต้องเตรียม*

1. เกลือขัดผิว ค่ะ ตามรูป ราคา 39 บาท
2. น้ำผึ้งเเท้ ค่ะ (ของเราใช้ของสวนจิตรดา)
3. ไข่ 1 ฟอง แค่นี้ค่ะ

สูตรหน้าใส

เดี๋ยวก่อน มาอ่านประโยชน์แต่ละตัวก่อนค่ะ

เกลือขัดผิว - ตัวนี้สดสูตรน้ำนมบริสุทธิ์ขา ขจัดสิ่งสกปรก มันแผลบจี้ดหน้าเเสบหน้าแผลไม่ก็สิวที่ใบหน้า จะแห้งลงค่ะ อีกอย่างทำให้ผิวนุ่มมาก
น้ำผึ้ง - ทุกคนดำรงรู้ดี ไม่ว่า ครีม สบู่ขัดผิวต่างๆ ประเด็นมากจักมีส่วนผสมน้ำผึ้ง เพราะทำให้ผิวดีค่ะ มีวิตามินเอ บี2 บี3 บี5 บี6 วิตามินซี และธาตุอีกเยอะค่ะ ทำให้ผิวนุ่มนวล ผิวดี อิ่มน้ำเที่ยวไปเลยก็ว่าได้ค่ะ
ไข่ขาว - ไข่ขาวตรงนั้นลดความมันข้าวของใบหน้าค่ะ หน้าตึง รักษากับสร้างเซลล์ผิวใหม่ขา

พอจะรู้เเล้วใช่มั้ยคะว่าทำไมต้องนำมาผสมกัน 55555

เริ่มทำกันเลยค่ะ

1. ไข่ขาวกึ่งหนึ่งนึงจากที่มีอยู่ของใช้ไข่ค่ะ อ่าวอย่างงสิคะ ลงความว่าว่า ไข่ขาวครึ่งหนึ่งนึงค่ะ 555

2. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาพอค่ะ

3. เกลือขัดผิว 3 ช้อนน้ำชาค่ะ แล้วไปก็คนให้เข้าขวางค่ะ

หยุดก่อน..!!

แน่นอนอยู่จากนั้นการจะให้เข้ากันมันยาก เพราะเกลือ จุดกันเป็นก้อน ฉะนั้นเราต้องต้มน้ำให้เดือด แล้วนำถ้วยไปวางแล้วคนให้เข้ากันค่ะ เพราะความร้อนจะทำให้เกลือเเยกออกจากกัน ขอโทษค่ะ ลืมถ่ายทิวภาพมาก หมายถึงคนให้เข้ากันพอเป็นน้ำเหลวพอค่ะ เพราะเดี๋ยวไข่ขาวสุกพอดี ได้แบบนี้ค่ะ


ตอนนี้กระทู้ก็ครอบครองที่สนใจนะคะเลยอยากเเก้ไขว่า มีอยู่คนถามเยอะเลยเรื่องทำไมจำเป็นต้องต้ม คือพริกไทยหรือแป้งเจอน้ำเย็นก็จะติดกันเป็นก้อนๆ เหมือนเกลือค่ะ ยิ่งเป็นไข่ด้วย หนูเลยคิดว่า เอาไปละลายจะทำให้เกลือไม่ติดกันค่ะ ทว่าพี่ๆ บางคนไม่อยากเสียเวลามาก ก็คนๆ ให้เข้ากันก็พอค่ะ


จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วหน้าค่ะ

 

หน้าจะเป็น เกล็ดน้ำเล็กๆ เกาะปรากฏ

* สำหรับคนมีสิว มีเเผล จะเเสบหน่อยค่ะ เเต่ทนเพราะมันแข็งจะทำให้เเห้งค่ะ *



ทิ้งไว้ 10 นาที ค่ะ จบล้างออก หน้าจะอิ่มมาก หน้าสดชื่น นุ่มมาก ขาวขึ้นเพราะด้วยค่ะ ขอร้องเเค่ทำบ่อยๆ นะคะ


ขอบคุณค่ะ ที่อ่านจนจบ ดิฉันไม่ได้หลอกลวงเหรออย่างไร ดิฉันไตร่ตรองว่าดีค่ะเเละอยากให้สาวๆ ทุกคนได้มาลองดูค่ะ

 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/36049/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้