วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ ที่ทางทีมงาน Sanook! Travel ขอหยิบมาแนะนำในช่วงหน้าหนาปีนี้ครับ ในสายหมอกเป็นรีสอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของวิว เช้าคุณจักตื่นมาเจอกัหมอกที่รับรองว่าหากได้มาเยือน ที่นี่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่อนนครับ เกี่ยวจากแผ่นดินตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

gedc0114 

รีสอร์ทนี้มิเหมาะและผู้ที่อยู่กับธรรมชาติไม่เป็น พร้อมกับต้องการหามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เพราะเราเป็นรีสอร์ท ในสไตล์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีแอร์ พร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกแหล่งเกินจำเป็น นะค่ะ
เราทุกคนเกิดมาจากธรรมชาติ จำต้องจะเคารพธรรมชาติ และอยู่กับธรรมชาติดังรักธรรมชาติ  

4


ส่วนใครทีนึกภาพของคุณ ไม่ออกก็ลองเข้า Google ดูนะรับรองไม่มีใครไม่รู้จักเธอแน่นอน

ลายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.sanook.com/1401669/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

รวมจุดเสี่ยง เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงปีใหม่ 2560

102

เส้นทางเลี่ยงรถติดปีใหม่ 2560

      แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

    

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯเสด็จพระราชดำเนิน รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ทางหลวงหมายเลข 346 นครชัยศรี – กำแพงแสน) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 321 กำแพงแสน – ด่านช้าง) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333 ด่านช้าง – บ้านไร่ – อ.เมืองอุทัยธานี) เคลื่อนนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางถิ่น 4 จากกรุงเทพฯไป รังสิต– อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) ลูกจากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

 

 

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

     เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เพื่อเป็นการระบายปริมาณรถหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ได้

     1.จากถนนพหลโยธินประมาณ กม.40 500 เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 3214 ตรงไปบรรจบ    ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จนไปถึงต่างระดับบางปะหันได้   ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเลี่ยงการจราจรที่ต่างระดับบางปะอินและที่จ.อยุธยาได้

     2. จากทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก) สามารถเลี่ยงปริมาณจราจรหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอินได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1  จากนั้นตรงไปประมาณ กม.65 ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 309 ตรงไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 

 

100

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคใต้

       เส้นทางที่ 9 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 10 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 11 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

       ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://auto.sanook.com/56509/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

 

ป.ป.ส. แจงกรณี ครม. มีมติเห็นชอบ ส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ระบุ 3 ปีแรก จะให้ภาครัฐเป็นผู้ขออนุญาตในการผลิตและจำหน่ายเท่านั้น

 

นาย ศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ "กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp)" ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) สำหรับการใช้ประโยชน์ในครัวเรือน (ใช้ในการทอเส้นใยผ้า) และในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้กฎกระทรวงดังกล่าวอยู่ระหว่างการประกาศที่ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเมื่อประกาศฯ แล้วจะมีอยู่ผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป "โดยในระยะ 3 ปีแรกนับแต่วันประกาศ จักให้เฉพาะเจาะจงหน่วยงานสรรพสิ่งรัฐเป็นผู้ขออนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง" และให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ประเมินผลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า พอเหมาะสมหรือไม่ที่จะอนุญาตให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมายื่นขออนุญาต


นาย ศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า "สำนักงาน ป.ป.ส. จะนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ส. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว พร้อมทั้งจะกำหนดกลไกในการกำกับดูแลการปลูกกัญชงทั้งในระดับส่วนกลาง และในระดับพื้นที่ (จังหวัด/อำเภอ/ตำบล) ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้อนุญาตให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ทดลองปลูกกัญชาเพื่อการวิจัยในด้านเมล็ดพันธุ์ การส่งเสริมการปลูกและการสร้างมูลค่าเพิ่ม งานพัฒนากระบวนการแปรรูปพลัดพรากเส้นใย โดยทดลองปลูกใน 6 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก เพชรบูรณ์ และแม่ฮ่องสอน

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2144242/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

วันที่ 28 ธ.ค. 59 – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ นักแสดงหญิงฉายาดัง ชาวอเมริกัน ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” ในภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟยอดนิยมอย่าง “สตาร์ วอร์ส” เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากประสบวิสัยที่เป็นไปหัวใจหยุดเต้น

ทั้งนี้ จากข่าวดังกล่าวได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่บรรดานักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส รวมถึงแฟน ๆ อย่างมาก ซึ่ง มาร์ค ฮามิลล์ หนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ผู้รับบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้ทวีตข้อเรื่องสั้น ๆ ว่า “ไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมาได้”

ขณะที่ แฮริสัน ฟอร์ด อีกหนึ่งนักแสดงชื่อดังถิ่นรับบาท ฮาน โซโล กล่าวถึง แคร์รี ฟิชเชอร์ ว่า “เธอเป็นบุคคลที่พิเศษและใช้ชีวิตอย่างองอาจ” ส่วน จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับชื่อดังที่ให้กำเนิดภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส กล่าวว่า “แคร์รี ฟิชเชอร์ ดำรงฐานะคนที่ฉลาด เป็นนักแสดงและนักเขียนที่มีพรสวรรค์ และทุกคนก็รักความมีชีวิตชีวาในตัวเธอ”

โดยเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมา อาการโรคหัวใจของใช้ แคร์รี ฟิชเชอร์ กำเริบขณะถิ่นที่เธอกำลังเดินทางจากกรุงลอนดอนของอังกฤษไปยังนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐฯ โดยเครื่องบิน ซึ่งเป็นกำลังเดินสายโปรโมตหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ ทำให้เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อเครื่องลงจอด ก่อนที่ต่อมาแม่ของเธอจะกล่าวว่า อาการของเธอทรงตัวแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://news.sanook.com/2143538/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ทะเลหมอก 10 แห่งในเมืองไทย ที่ต้องไปดูสักครั้งในชีวิต

ช่วงหน้าหนาวนี้ ใครที่วางแผนจะเสด็จพระราชดำเนินเที่ยว ทะเลหมอกสวยๆ พรึบบรรยากาศ สบายๆ เสี่ยงโชคมาดู 10 สถานที่ ท่องเที่ยวหน้าหนาว สิ้นปีนี้ ซึ่งขอบอกเลยว่า ทั้ง 10 สถานที่นี้ น่าไปเที่ยว ด้วยกันถ่ายรูปมากๆ จะสวยแค่ไหนเราลองไปชมกันเลยดีกว่า

 

1. ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า

ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า มักยังมีชีวิตอยู่จุดหมายต้นๆ แห่งหลายคนนึกถึง โดยภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกเคลื่อนเหนือ ทะเลหมอก ในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าเพราะเดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์รุ่งโรจน์

สถานที่ตั้ง: บ้านร่มฟ้าไทย ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

2. ดอยอ่างขาง

ทะเลหมอก ดอยอ่างขาง

ทะเลหมอก ดอยอ่างขางด้วยความที่ว่า ดอยอ่างขาง มีภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาจัดการให้เขตนี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาว ตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆ ไปกับแปลงผักเมืองหนาว

สถานที่ตั้ง: ดอยอ่างขาง บ้านคุ้ม ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

3. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

สถานที่นี้ขึ้นชื่อว่าเป็น ทะเลหมอก ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือดอยกิ่วลม และสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกจากทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วยังมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

4. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ครั้นเมื่อแสงทองฉาบบน ทะเลหมอก มีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าใน ฤดูหนาว แนะนำให้รีบจับจองพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอก สูงประมาณ 1,469 ม. จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทะเลหมอกแบบพานอรามา

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

5. ม่อนกิ่วลม

เกี่ยวกับสถานที่นี้ หมายถึงจุดชม ทะเลหมอก ที่วิลาวัณย์งามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย มีกรณีหนาแน่นข้าวของเครื่องใช้ทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ โดยเป็นทิวภาพที่น่าประทับใจมากๆ

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

6. ม่อนพูนสุดา

ม่อนพูนสุดา ก็ยังไม่ตายอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาดู ทะเลหมอก เนื่องด้วยมองเห็นทิวทิศน์ได้ระยะไกลและกว้าง หลายคน จึงยอมตื่นเช้าเพื่อดูทะลหมอกที่นี่ด้วย

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

7. ภูหัวฮ่อม

ภูหัวฮ่อม นั้นประกอบด้วยอากาศเย็นสบายตลอดพรรษา ในช่วงฤดูหนาว ก็จะมีมหรรณพหมอกปกคลุมเทือกเขาสลับซับซ้อนแบบล่าง กั้นพรมแดนไทย - ลาวให้ชม นอกจากนี้ไม่ไกลกันมีแปลงสตรอว์เบอร์รี่พร้อมกับผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมียให้ชิมเพราะด้วย

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย

8. ภูทับเบิก

สำหรับ ภูทับเบิก ข้างนอกจากจะมีไร่กะหล่ำปลีสุดสายตาแล้ว สมมติว่าหากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกให้ชม บางครั้งอาจพัดปกคลุมบนภู ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสสายไอหมอกได้

สถานที่ตั้ง: ภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์


9. ภูทอก

ภูทอก ถ้าหากใครได้เคลื่อนที่เที่ยว เมืองเชียงคานในฤดูหนาว อย่าพลาดขึ้นไปชมทะเลหมอกบนภูทอก ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ด้วยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง มีความชื้นสูง ในตอนเช้าจึงเกิดทะเลหมอกขั้นหนาแน่นพร้อมด้วยกินเวลาแยะชั่วโมง

สถานที่ตั้ง: ภูทอก ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

10. ดอยเสมอดาว

ถ้าหากเอื้อนถึง ดอยเสมอดาว ยามค่ำคืนนั่งนับดาว กลุ่มตอนเช้าตรู่ก็ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น หากใครอยากเห็นทะเลหมอก ในมุมสูงแนะนำให้ขึ้นไปชมบนผาหัวสิงห์ มากอยู่บริเวณจุดกางเต็นท์

สถานที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว เพื่อแวะเสด็จพระราชดำเนินชมทะเลหมอก สวยๆ นั่งชมดาวในยามดึก อาบแสงพระอาทิตย์ยามเช้า จิบกาแฟเบาๆ ถ่ายรูปไปกับทะเลหมอก เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆ หวังว่าหลายๆ ท่านคงมีสถานที่เที่ยวหน้าหนาวกันแล้วนะครับ ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัย และที่สำคัญเมามิขับนะครับ ^_^

อ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/1262462/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

ผู้หญิงทุก ผู้มีชีวิตไม่ว่าใครก็ล้วนอยากมีผิวขาว อย่างเดียวหากคุณเกิดมาพร้อมกับผิวสองสี ผิวแทนหรือผิวสีน้ำผึ้งตลอดจนตรอกผิวหมองคล้ำอันเนื่องมาจากการตากแดดเป็นเวลา เนิ่นนาน ความหมองคล้ำจากแดดก็ย่อมบดบังความกระจ่างใสสิ่งผิวจนเหลือแต่เพียงความหมอง คล้ำดำกร้านได้เช่นเดียวกัน วันนี้เรามีสูตรความงามที่จะช่วยเปลี่ยนสีผิวของคุณอำนวยกลับมาขาวกระจ่างใสแบบธรรมชาติได้ค่ะ สมมุติพร้อมแล้ว.. เราลงมาดูกันเลยว่ามีสูตรไหนทำอย่างไรมั่ง

สูตรขัดผิวขาว

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวด้วยมะขามเปียก มะนาว ขมิ้น โยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
ด้วย ส่วนผสมทิ้งมะขามเปียกและมะนาวถิ่นที่นำมาผสมผสานกัน ยิ่งเป็นการเพิ่มสองคุณค่าจากกรดผลไม้แถวจะช่วยเร่งความกระจ่างใสให้สีผิว เพราะสองผลไม้ดังกล่าวมีฤทธิ์หมายถึงกรดมันจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าย่านตายแล้ว ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ในขณะที่โยเกิร์ต น้ำผึ้งจะช่วยคืนความเนียนนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวและขมิ้นก็จะช่วยจัดการ แบคทีเรียบนผิวหนังอำนวยหมดไป อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเคลือบผิวทำให้สีผิวผุดผ่องเป็นยองใยมากขึ้น ราวนั้น สูตรนี้จึ่งมั่นใจได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนผิวหมองคล้ำของคุณให้ค่อยๆ ขาวกระจ่างใสตามธรรมชาติได้หมวดแน่นอน

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
 

วิธีใช้ พา ส่วนผสมทั้งหมดมาหาผสมรวมกัน อาจจะแยกเอามะขามเปียกไว้ต่างหากก็ได้นะคะ เพราะว่านำมะขามเปียกมาชุบกับส่วนผสมทั้งหมดแล้วขัดผิวแทนใยบวบนั่นเอง ขัดผิวให้ทั่วเรือนร่างเพราะว่าขัดวนมีชีวิตวงกลมไปมา จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่ะ แล้วล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ที่สำคัญหลังจากขัดผิวเสร็จแล้วอย่าลืมรีบชโลมผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมจาก ไวท์เทนนิ่งทันที และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าคุณจักอยู่ภายในบ้านก็ตามก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ ก็เพราะว่าแสงจากหลอดไฟก็แผ่รังสีที่จะทำลายผิวให้หมองคล้ำรวดเร็วได้รับ

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรดังกล่าวสาวๆ สามารถนำมาพอกหน้าคว้าเช่นเดียวกันนะคะ กลับอาจจะเลือกหมายถึงมะนาวหรือมะขามเปียกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กรดจากผลไม้มีมากเกินไปจนทำลายผิวอำนวยแสบระคายเคืองค่ะ และอาจจะลดขมิ้นให้น้อยลงด้วย ไม่เช่นนั้น อาจทำให้ผิวหน้าสาวๆ เหลืองอย่างที่ไม่เหมาะจะเป็นหาได้

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวจากมะขามเปียกและ วัตถุดิบอื่นๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติช่วยผลัดผิวและเผยเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่าง

ใส เปล่งปลั่ง ทำให้ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อสาวๆ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ควบคู่กับการกินผักผลไม้ที่ให้วิตามินแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว นอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำพร้อมด้วยหลับให้สนิทตลอดคืน มีหรือคะที่ผิวหมองคล้ำจะไม่โบกมือลาหายไป

สำหรับสาวที่มีอยู่ผิวแทน ผิวสองสีหรือไม่ก็ผิวสีน้ำผึ้ง คุณก็จักพบกับผลลัพธ์สิ่งสีผิวที่จะค่อยๆ ขาวกระจ่างใสได้เช่นเดียวกัน ไม่เชื่อ.. คงต้องลองทำตามกันแล้วค่ะ แล้วคุณจะทึ่งไปกับคุณสมบัติของสูตรภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยเราสุดๆ เลยล่ะ

ลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://women.sanook.com/blog/22855/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจาก<b><i>สิว</i></b>ได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ปัญหาผิวหน้าของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ การมีสิวขึ้นหน้า และเมื่อสิวหายไปแล้ว หลังจากมันตกสะเก็ดมันก็มักทิ้งรอยสิวดำๆ เอาไว้ให้สาวๆ เรากลุ้มใจตามเสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรละเลยการรักษารอยสิวให้จางลงโดยเร็ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนกันบ้างหรือไม่นะที่จะสามารถรักษารอยสิวให้จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหารอยสิว และหากกำลังมองหา วิธีลดเลือนรอยสิวในแบบธรรมชาติ ตามมาดูกับวัตถุดิบเหล่านี้ที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยารักษารอยสิวกันสิคะ รับรองค่ะว่ารอยสิวจะต้องจางลงแบบไม่ต้องควักตังค์ซื้อยารักษารอยสิวกันเลย แถมยังทำให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสตามได้อีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

1.น้ำมะนาว

การลดเลือนรอยสิวให้จางลง เราสามารถใช้น้ำมะนาวได้ เป็นวิธีรักษาสิวสูตรธรรมชาติ เพราะน้ำมะนาวมีค่าเป็นกรดโดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้เป็นอย่างดี และยังทำหน้าที่ในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดำๆ จางลง แต่ก่อนใช้อย่าลืมผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าให้กรดของมันเจือจางลงสักเล็กน้อยนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าแสบระคายเคืองเกินไปได้ สำหรับในส่วนของการรักษารอยสิวด้วยน้ำมะนาว ให้แต้มน้ำมะนาวลงไปบนรอยสิวปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงล้างออก

2.เจลว่านหางจระเข้

หน้าร้อนแบบนี้ ผิวสาวมักเผชิญกับปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดหรือผิวไหม้แดดอยู่เป็นประจำ และเจลว่านหางจระเข้ก็มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมปัญหาผิวดังกล่าวได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังสามารถช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้ด้วย เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาลงบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ รอยสิวจางลงแน่นอน

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
 

 

3.มันฝรั่ง

นำมันฝรั่งมาฝานให้เป็นแผ่น จากนั้นนำมาทาลงบนรอยสิว ปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำมันฝรั่งจะช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้เช่นกันค่ะ

4.น้ำมันมะกอก

ก่อนใช้น้ำมันมะกอก ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาทาบนใบหน้าพร้อมกับค่อยๆ นวดผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างหน้าให้สะอาด การใช้น้ำมันมะกอกรักษารอยสิว นอกจากจะช่วยให้รอยสิวจางลงแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

5.แตงกวากับมะเขือเทศ

ให้นำแตงกวาและมะเขือเทศมาปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด มะเขือเทศมีวิตามินเอและซี ในขณะที่แตงกวาเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 และบี 2 เมื่อนำสองคุณค่านี้มาผสานรวมกันก็จะยิ่งช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลง และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

6.มะละกอ

ให้นำมะละกอสุก สามารถรักษาสิวได้ โดยการนำมาปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาทาลงบนรอยสิว หรืออาจจะทาจนทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ คุณสมบัติจากมะละกอสุกจะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น และยังช่วยลดเลือนรอยสิวไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

ทราบกันไปแล้วนะคะถึงวิธีรักษารอยสิวในแบบธรรมชาติ อย่าลืมหยิบเอาวัตถุดิบใกล้ตัวที่คุณหาง่ายเหล่านี้มาแต้มรอยสิว ไม่นานหรอกค่ะ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ค้นพบจะต้องเกิดกับคุณภายในไม่ช้าแน่นอน

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/72835/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สิวมีกี่แบบ

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ ที่ทางทีมงาน Sanook! Travel ขอหยิบมาแนะนำในช่วงหน้าหนาปีนี้ครับ ในสายหมอกเป็นรีสอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องข้าวของวิว เช้าคุณจักตื่นมาเห็นกัหมอกที่รับรองว่าหากได้มาเยือน ที่นี่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่อนนครับ เกี่ยวพันจากภาคตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

gedc0114 

รีสอร์ทนี้เปล่าเหมาะเข้ากับผู้ที่อยู่กับธรรมชาติเปล่าเป็น พร้อมด้วยต้องการหามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เพราะเราเป็นรีสอร์ท ในสไตล์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีแอร์ พร้อมกับเครื่องอำนวยความสะดวกเนื้อที่เกินจำเป็น นะค่ะ
เราทุกคนเกิดมาจากธรรมชาติ ต้องจะเคารพธรรมชาติ และอยู่กับธรรมชาติชนิดรักธรรมชาติ  

4


ส่วนใครทีนึกภาพของคุณ ไม่ออกก็ลองเข้า Google ดูนะรับรองไม่มีใครไม่รู้จักเธอแน่นอน

ลายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.sanook.com/1401669/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

ปั่นป่วนไปทั่วเมือง Facebook Safety Check ระบบแจ้งเตือนภัยดัง แจ้งกรุงเทพฯ มีระเบิด ผู้คนแห่กดแชร์ตามๆ กัน ยืนยันไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น

(27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเต็มไปด้วยข้อความเตือนภัยเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกแชร์ไปทั่ว โดยพบว่ามาจากระบบ Facebook Safety Check ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ แต่จากการตรวจสอบไม่พบเหตุระเบิดใดเกิดขึ้น

ขณะที่ผู้มานพในโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับช่วยตรวจสอบกรณีที่เกิด ขึ้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาหาจากสาเหตุ Facebook Safety Check ถูกรบกวนหรือขัดข้อง ทำให้เกิดการแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งนี้ยังมีตั้งข้อสังเกตว่า เว็บไซต์ข่าว Bangkok Informer ได้นำข่าวเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อเดือนสิงหาม 2558 มาโพสต์แชร์ซ้ำอีกครั้งในวันนี้ อาจจะจะทำให้เกิดความผิดพลาดในระบบข่าวออนไลน์


นอกจากนี้ ผู้คนในโลกออนไลน์บางคนต่างได้รับแจ้งเตือนภัยจากผู้ใช้คนอื่นๆ ในลักษณะส่งต่อกันเรื่อยๆ เพื่อใช้สำหรับเตือนภัยเหตุร้าย ขณะนี้บางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยว่า การปล่อยข่าวลือแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการแฮ็กระบบ เพราะสร้างสถานการณ์ใดๆ หรือไม่

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความณเฟซบุ๊กว่า "อันนี้เฟซบุ้คมั่วนะครับ ไม่ได้มีเหตุระเบิดอะไร ไม่ต้องโดนหลอกให้กดรายงานกายว่าปลอดภัยกันนะครับ มันมั่วมาจากข่าวระเบิดราชประสงค์ปีก่อน มีเพจคลิ้กเบจเอามาโพสต์ซ้ำ เฟซบุ๊กเลยโดนหลอก"

สำหรับ Facebook Safety Check เป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย เช่น ภัยก่อการร้าย หรือ ภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น สามารถยืนยันตัวว่าปลอดภัย ระบบนี้เคยใช้เตือนอย่างแพร่หลายเป็นเหตุก่อการร้ายในประเทศออสเตรเลีย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143502/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

เมื่อเช้าได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยารายงานแหว ปีนี้ภาคเหนือจะเจอลมหนาวกลางเดือนตุลาคมนี้แล้ว แถมพกจะเย็นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นมกราคม จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วทั้งภาคเฉลี่ยตั้งแต่ 5-19 องศาเซลเซียส เรียกว่าปีนี้ได้หนาวกันสะใจเลยทีเดียว สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนขึ้นเสด็จรับลมหนาวกัน สนุก! ท่องเที่ยว ได้คัดสรร 10 ที่เที่ยวสวยๆ ให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบอากาศหนาวแล้ว

1.ภูชี้ฟ้า เมื่อพูดถึงทะเลหมอก ภูชี้ฟ้ามักเป็นจุดหมายต้นๆ ในที่หลายคนนึกถึง ภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกไปเหนือทะเลหมอก ในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่าง นักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าเพื่อให้เดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์ขึ้น

ภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้า

2.ดอยอินทนนท์ ยังมีชีวิตอยู่ยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร ประกอบด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดด้านหลัง

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

3.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่นี้ขึ้นชื่อทะเลหมอกที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเหรอดอยกิ่วลม ซึ่งอาจจะชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกทิ้งทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วอีกทั้งมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

4.ดอยแม่อูคอ อยู่ในเขตอำเภอขุนยวม หมายความว่าแหล่งของดอกบัวตองที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย เวลาที่สวยงามที่สุดของการดูดอกบัวตองนั้น ควรดูในตอนเช้าเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง เพราะสีทองของดอกจะเปล่งประกายเป็นทองมากกว่าเวลาอื่นใด และใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกแม่สุรินทร์น้ำตกสูงใหญ่เลี้ยงดูคุณเที่ยวชมอีกเนื่องด้วย

ดอยแม่อูคอ

ดอยแม่อูคอ

5.ปางอุ๋ง เป็นที่ที่สร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก มาสู่แล้วก็อยากจะมาอีกทุกๆ ปีเลยก็ว่าได้ งดงามทั้งธรรมชาติและบรรยากาศ สวยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในฤดูหนาวอย่างนี้คุณจะได้มองดูสายหมอก หยอกล้อกับสายน้ำท่ามกลางขุนเขาและป่าสน

ปางอุ๋ง

6.ดอยอ่างขาง ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ภายในช่วงฤดูหนาว ตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆจรกับแปลงผักเมืองหนาว

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง

7.ดอยเสมอดาว ในยามค่ำคืนนั่งนับดาว แขวงตอนเช้าตรู่ก็ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ใครอยากเห็นทะเลหมอกที่มุมสูงแนะนำยกให้ขึ้นไปชมบนผาหัวสิงห์ซึ่ง ตั้งอยู่บริเวณจุดกางเต็นท์

ดอยเสมอดาวดอยเสมอดาว

8.ม่อนกิ่วลม สิ่งกลมๆชมทะเลหมอกตำแหน่งสวยงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย ความหนาแน่นของทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ เป็นภาพที่ควรจะประทับใจ

ม่อนกิ่วลม

ม่อนกิ่วลม

9.ม่อนพูนสุดา เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูทะเลหมอก ด้วยมองเห็นทิวทิศน์ได้ระยะไกลและกว้าง หลายคนจึงยอมตื่นเช้าเพื่อดูทะลหมอกที่นี่

ม่อนพูนสุดาม่อนพูนสุดา

10.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน แสงทองฉาบบนทะเลหมอกมีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าในฤดูหนาวแนะนำให้รีบจับสำรองพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอก สูงประมาณ 1,469 ม. จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทะเลหมอกแบบพานอรามา

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
 
คลิกชมภาพ
อ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/1391118/
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้